สัตว์โลก รู้จักสุขอันแท้จริง ต่อเมื่อปัญญาเกิด
มาคัณฑิยะ ! เปรียบเหมือนบุรุษตามืดมาแต่กำเนิด เขาจะมองเห็นรูปทั้งหลาย ที่มีสีดำหรือขาว เขียว
หรือเหลือง แดงหรือขาบ ก็หาไม่, จะได้เห็นที่อันเสมอหรือไม่เสมอก็หาไม่, จะได้เห็นดวงดาว หรือดวง
จันทร์และดวงอาทิตย์ก็หาไม่. เขาได้ฟังคำบอกเล่าจากบุรุษผู้มีตาดี ว่า “ท่านผู้เจริญ ! ผ้าขาวเนื้อดี
นั้น เป็นของงดงาม ปราศจากมลทิน เป็นผ้าสะอาด”, ดังนี้. เขาเที่ยวแสวงหาผ้าขาวนั้น. บุรุษผู้หนึ่งลวง
เขาด้วยผ้าเนื้อเลวเปื้อนเขม่าว่า “นี่แล เป็นผ้าขาวเนื้อดี เป็นของงดงาม ปราศจากมลทิน เป็นผ้า
สะอาด.” ดังนี้ เขารับผ้านั้นแล้วและห่มผ้านั้น. ต่อมา มิตรอมาตย์ ญาติสาโลหิตของเขา เชิญแพทย์
ผ่าตัดผู้ชำนาญมารักษา. แพทย์พึงประกอบยาถ่ายโทษในเบื้องบน ถ่ายโทษในเบื้องต่ำ ยาหยอด ยา
หยอดให้กัด และยานัตถุ์. เพราะอาศัยยานั้นเอง เขากลับมีจักษุดี ละความรักใคร่พอใจในผ้าเนื้อเลว
เปื้อนเขม่าเสียได้ พร้อมกับการเกิดขึ้นแห่งจักษุที่ดี เขาจะพึงเป็นอมิตร เป็นข้าศึกหมายมั่น ต่อบุรุษผู้
ลวงเขานั้นหรือถึงกับเข้าใจเลยไปว่า ควรจะปลงชีวิตเสียด้วยความแค้น ว่า
“ท่านผู้เจริญเอ๋ย ! เราถูกบุรุษผู้นี้ คดโกง ล่อลวง ปลอมเทียมเอาด้วยผ้าเนื้อเลวเปื้อนเขม่า
ว่า ‘นี่ท่านผู้เจริญ ! . นี้เป็นผ้าขาวเนื้อดี เป็นของงดงามปราศจากมลทิน เป็นผ้าสะอาด,’ . มานานนัก
แล้ว”, อุปมานี้ฉันใด ;
มาคัณฑิยะ ! อุปไมยก็ฉันนั้นเหมือนกัน, คือเราแสดงธรรมแก่ท่านว่า “เช่นนี้เป็นความไม่มีโรค, เช่นนี้
เป็นนิพพาน” ดังนี้ ; ท่านจะพึงรู้จักความไม่มีโรค จะพึงเห็นนิพพานได้ ก็ต่อเมื่อท่านละความ
เพลิดเพลินและความกำหนัด ในอุปาทานนักขันธ์ทั้งห้าเสียได้ พร้อมกับการเกิดขึ้นแห่งธรรม
จักษุของท่าน; และความรู้สึกจะพึงเกิดขึ้นแก่ท่าน ว่า “ท่านผู้เจริญเอ๋ย ! นานจริงหนอ, ที่เราถูกจิตนี้
คดโกงล่อลวง ปลิ้นปลอก จึงเราเมื่อจะยึดถือ ก็ยึดถือเอาแล้วซึ่งรูป ซึ่งเวทนา ซึ่งสัญญา ซึ่งสังขาร และ
ซึ่งวิญญาณนั่นเอง. เพราะความยึดถือเป็นต้นเหตุภพจึงมีแก่เรา, เพราะภพเป็นต้นเหตุ ชาติจึงมีแก่เรา,
เพราะชาติเป็นต้นเหตุชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดขึ้นพร้อมหน้า.
ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้,” ดังนี้ แล.
- ม.ม. ๑๓/๒๘๔/๒๙๐.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น